ใครที่ทำงานประจำอยู่และมีเวลาช่วงสั้น ๆ สำหรับทำงานอดิเรกทำให้สิ่งที่รักที่ชอบและงานอดิเรกของเราสร้างสร้างรายได้เข้ากระเป๋าเราได้อีกทางนอกจากการทำงานประจำหรือบางครั้งรายได้จากงานอดิเรกของเราสามารถสร้างรายได้ได้มากกว่าการทำงานประจำของเราจนหลายคนอยากตัดสินใจลาออกจากการทำงานประจำเพื่อหันมาทำงานอดิเรกและสร้างรายได้อย่างจริงจัง แต่บางครั้งยังมีความกังวลหลายเรื่องและมีความลังเลเกี่ยวกับการตัดสินใจเลือกทางใดทางหนึ่ง
หากใครกำลังรู้สึกลังเลว่าจะเอาไงต่อดีจะเปลี่ยนงานอดิเรกของเราเป็นการทำธุรกิจอย่างจริงๆพร้อมลาออกจากงานประจำดีไหม เริ่มต้นอย่างไรดี มาเช็กความพร้อมกันก่อนว่าเราพร้อมแค่ไหนที่จะเปลี่ยน“งานอดิเรก” เป็น “ธุรกิจ”
ข้อควรรู้ก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจสำหรับมือใหม่
ก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจมือใหม่ทุกคนควรทราบ เพราะการทำธุรกิจไม่เพียงการซื้อขายสินค้าหรือบริการระหว่างเจ้าของธุรกิจและลูกค้าเพียงอย่างเดียว ยังมีรายละเอียดอีกหลาย ๆ ด้านที่เราควรทำความเข้าใจและศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจ มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่มือใหม่ควรรู้ก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจ
ศึกษาตัวเองและธุรกิจ
ความสนใจ : เลือกธุรกิจที่ตรงกับความสนใจ ความถนัด และความรู้ของคุณ จะได้สนุกกับงานและทุ่มเทให้เต็มที่
ความต้องการของตลาด : ตรวจสอบว่ามีตลาดรองรับสินค้าหรือบริการของคุณหรือไม่ ศึกษาคู่แข่ง กลุ่มเป้าหมาย และเทรนด์ของธุรกิจ
จุดแข็งและจุดอ่อน : วิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของคุณ รวมถึงทรัพยากรที่มี เพื่อวางกลยุทธ์ที่เหมาะสม
วางแผนธุรกิจ
แผนธุรกิจ : เขียนแผนธุรกิจที่ชัดเจน กำหนดเป้าหมาย กลยุทธ์ การตลาด การเงิน และแผนสำรอง
วิเคราะห์ SWOT ของธุรกิจ : ได้แก่ จุดแข็ง (Strengths) จุดอ่อน (Weaknesses) โอกาส (Opportunities) และอุปสรรค (Threats)
การเงิน : คำนวณต้นทุน projecting รายรับ-รายจ่าย วางแผนเงินทุนสำรอง และแหล่งเงินทุน
เตรียมเงินทุนให้พร้อม
คำนวณเงินทุน : คำนวณเงินทุนเริ่มต้น เงินทุนสำรอง และเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจ
แหล่งเงินทุน : หาแหล่งเงินทุนที่เหมาะสม เช่น เงินทุนส่วนตัว เงินกู้จากธนาคาร เงินลงทุนจากนักลงทุน
การจัดการเงินทุน : บริหารจัดการเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ แยกเงินส่วนตัวออกจากเงินธุรกิจ
เลือกทำเลที่ตั้งให้เหมาะกับธุรกิจ
กลุ่มเป้าหมาย : เลือกทำเลที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย เข้าถึงลูกค้าได้ง่าย
ลักษณะธุรกิจ : เลือกทำเลที่เหมาะกับลักษณะธุรกิจ เช่น ร้านค้าต้องการพื้นที่หน้าร้าน
ค่าใช้จ่าย : พิจารณาค่าเช่า ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ และความคุ้มค่า
เตรียมพร้อมด้านกฎหมาย
จดทะเบียนธุรกิจ : เลือกรูปแบบธุรกิจที่เหมาะสม จดทะเบียนธุรกิจให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ : ตรวจสอบและขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจที่จำเป็น
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง : ศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค กฎหมายภาษี
พัฒนาทักษะการบริหารจัดการ
การจัดการเวลา : บริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ แบ่งเวลาให้กับงานต่าง ๆ
การจัดการคน : เรียนรู้ทักษะการเป็นผู้นำ บริหารจัดการพนักงาน สร้างแรงจูงใจ
การตลาด : เรียนรู้กลยุทธ์การตลาด โปรโมทธุรกิจ เข้าถึงลูกค้า
เรียนรู้และปรับตัว
ติดตามเทรนด์ : ติดตามเทรนด์ ธุรกิจ เทคโนโลยี พัฒนาธุรกิจให้ทันสมัย
เรียนรู้สิ่งใหม่ : เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ พัฒนาตนเอง รับมือกับความท้าทาย
ปรับตัว : ปรับกลยุทธ์ธุรกิจให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า
เตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยง
วิเคราะห์ความเสี่ยง : วิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เตรียมแผนสำรอง
การประกันภัย : พิจารณาทำประกันภัยเพื่อคุ้มครองธุรกิจ
การจัดการความเสี่ยง : เรียนรู้วิธีจัดการความเสี่ยงเพื่อลดผลกระทบต่อธุรกิจ
มองหาโอกาสการเติบโตของธุรกิจ
ขยายธุรกิจ : มองหาโอกาสขยายธุรกิจ พัฒนาสินค้า/บริการ เพิ่มช่องทางจำหน่าย
สร้างเครือข่าย : สร้างความสัมพันธ์ พาร์ทเนอร์ หาโอกาสความร่วมมือ
พัฒนาธุรกิจ : พัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ตอบสนองต่อความต้องการของตลาด
ก่อนจะเปลี่ยนงานอดิเรกให้เป็นธุรกิจ มาเช็กความพร้อมกันก่อน!
เชื่อว่าหลายคนเกิดความลังเลว่าจะเริ่มเปลี่ยนงานอดิเรกของเราเป็นธุรกิจดีไหม เปลี่ยนแล้วจะเป็นอย่างไร เรามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนในการเริ่มต้นธุรกิจอย่างจริงจัง เป็นต้น คำถามเหล่านี้มักเกิดขึ้นบ่อยๆเมื่อเราต้องตัดสินใจเลือกทำอะไรบางอย่าง สำหรับใครที่รู้สึกลังเลไม่รู้ว่าเราตัดสินใจถูกมั้ยก่อนตัดสินใจเปลี่ยนงานอดิเรกเป็นธุรกิจมาเช็กกันก่อนว่าเราพร้อมหรือไม่ หากเราพร้อมแล้วก็อย่ารอช้าเริ่มต้นธุรกิจกันเลย
เช็กใจตัวเอง : เรารักงานอดิเรกนี้จริงไหม? พร้อมทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ พัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่อง? มองงานอดิเรกนี้เป็น “งาน” มากกว่า “ความบันเทิง” ได้ไหม? เพราะเมื่อเราเริ่มทำธุรกิจแล้วจะมีความกดดันมากขึ้น และเราเข้าใจดีไหมว่าการทำธุรกิจมีทั้งความท้าทาย อุปสรรค และความเสี่ยง?
เช็กตลาด : มีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจนที่มีความต้องการสินค้า/บริการจากงานอดิเรกของเราจริงหรือไม่? ตลาดนี้มีคู่แข่งมากน้อยแค่ไหน? สินค้า/บริการของเราจะแตกต่าง ดึงดูดใจลูกค้าอย่างไร? และมีช่องทางจำหน่ายสินค้า/บริการที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ชัดเจนหรือไม่? คำถามเหล่านี้มีผลต่อการเติบโตของธุรกิจและการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
เช็กความพร้อมด้านอื่น ๆ : เรามีความพร้อมในทักษะและความรู้ด้านธุรกิจ การเงิน การตลาด เพียงพอหรือไม่? มีเงินทุนสำรองสำหรับลงทุนเผื่อไว้สำหรับช่วงเริ่มต้นธุรกิจ? เรามีเวลาทุ่มเทให้กับธุรกิจควบคู่กับงานประจำ (ถ้ามี) และชีวิตส่วนตัวได้หรือไม่? เป็นต้น
เช็กความเสี่ยง : งานอดิเรกที่รัก อาจเปลี่ยนเป็น “งาน” ที่น่าเบื่อ กดดัน เมื่อต้องทำเพื่อหารายได้? ตลาดเปลี่ยนแปลง คู่แข่งเพิ่ม รายได้ไม่แน่นอน? รวมถึงความสัมพันธ์กับครอบครัว เพื่อน อาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อทุ่มเทให้กับธุรกิจ
เช็กแนวทางพัฒนา : เมื่อเริ่มธุรกิจแล้วการพัฒนาทักษะ ฝีมือ ความรู้ ด้านธุรกิจและงานอดิเรกอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการควรทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อพัฒนาสินค้าหรือบริการรวมถึงไอเดีย องค์ความรู้ต่าง ๆ ที่เรามีให้มีประสิทธิภาพและความน่าสนใจและตอบโจทย์ความต้องการของตลาดมากขึ้น นอกจากนี้การหา mentor หรือผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจคอยให้คำปรึกษาเป็นสิ่งที่ดีหากเรามีพาร์ทเนอร์ในการช่วยระดมไอเดีย แนวทางการแก้ปัญหาต่าง ๆ รวมถึงการศึกษาหาข้อมูล ความรู้ เรื่องราวจากธุรกิจที่คล้ายคลึงเพื่อพัฒนาต่อยอดและมองเห็นจุดอ่อน จุดแข็งของเราและธุรกิจคู่แข่ง
การได้ทำในสิ่งที่ชอบและสามารถสร้างเป็นรายได้เข้ากระเป๋าของเราถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะปัจจุบันบางครั้งการทำงานเพียงอาชีพเดียวอาจไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันการมีเงินเข้ากระเป๋าหลายทางช่วยให้เรามอิสรภาพทางการเงินดีขึ้น และหากเราสิ่งที่เรารักและถนัดสามารถสร้างรายได้ได้จะช่วยให้เรามีความสุขและกำลังใจในการทำงานมากขึ้น ใครกำลังลังเลอยู่ว่าจะลาออกจากงานประจำดีหรือไม่แล้วหันมาทำงานอดิเรกที่เราชอบให้กลายเป็นธุรกิจที่สร้างเป็นงานประจำของเราได้ ก่อนตัดสินใจเลือกทางใดอย่าลืมเช็กความพร้อมในด้านต่างๆ ให้พร้อม หากเช็กและชัวร์แล้วอย่ารอช้า! เปลี่ยน “งานอดิเรก” ให้เป็น “ธุรกิจ” เติมเต็มความฝันของเรากันเลย
